ตอนที่ 840 สมุนไพรเทพ




มู่หลิงซีและหันเสวี่ยเริ่มขนดินโลหิตเทพแล้ว บวกกับเทพมารหนู ความเร็วในการขนย้ายก็เร็วยิ่งขึ้นอีก




ในหุบเขาเทพวิญญาณ ยังมีผู้แข็งแกร่งคนอื่นอีก ใครก็ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้จะมาแย่งเอาทรัพยากรนี้เมื่อไหร่




เพราะฉะนั้น ความเร็วของพวกเขาจะต้องเร็ว ต้องรีบเอาทรัพยากรส่วนมากเข้าไปในโลกของม้วนภาพก่อนที่คนเหล่านั้นจะมา




เสินหลิงวิเศษเจ็ดดาราเข้าไปในโลกของม้วนภาพแล้ว ก็ตื่นขึ้นมา มันกลายเป็นเถาวัลย์เทพสูงเทียมฟ้าต้นหนึ่ง เถาวัลย์หนายิ่งกว่าแท่นโม่เสียอีก มันพุ่งจากพื้นดินทะลุชั้นเมฆไปถึงฟ้า




โดยเฉพาะยอดของเสินหลิง ใบที่หกที่เหมือนกับ "ดวงอาทิตย์ร้อนแรง" นั่น และใบที่เจ็ดอย่าง "พระจันทร์ส่องสว่างยามราตรี" ราวกับพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ส่องอยู่บนฟ้า ทำให้ทิวทัศน์ประหลาดมาก




ยังดีว่าเป็นโลกในม้วนภาพ หากว่าเป็นด้านนอก จากการฝึกฝนของจางลั่วเฉินและเสี่ยวเฮย เกรงว่ายังไม่ทันได้เข้าใกล้มัน ก็คงถูกไอพลังที่แผ่ออกมาจากมันกดทับตายแล้ว




"เป็นเสินหลิงวิเศษเจ็ดดาราในตำนานจริงๆ จะต้องเป็นจักรพรรดิหญิงแน่ ที่นำมันมาปลูกไว้ใต้ร่างเทพ ดูดเอาโลหิตเทพเข้าไป ผ่านการฟูมฟักมาตลอดหลายแสนปี สมุนไพรสุกงอมดีแล้ว"




"ต่อให้เป็นสมัยอารยธรรมยุคกลาง สมุนไพรเทพปรากฏออกมา ก็ยังสร้างความสั่นสะเทือนมาก เหล่าเซียนสามารถตายเพื่อแย่งชิงมันได้"




เสี่ยวเฮยถอนหายใจแล้วกล่าวว่า "ใบทั้งเจ็ดของเสินหลิงวิเศษเจ็ดดารา มังกรฟ้า พยัคฆ์ขาว หงส์ ซ่วนอู่ กิเลน สุริยัน จันทรา มีฤทธิ์ที่ต่างกันไป"




"พวกต่างก็มีพลังรุนแรงทั้งสิ้น ใบแรกใบมังกรฟ้า สามารถเสริมพลังสมาธิได้ ใบที่สองพยัคฆ์ขาว สามารถฝึกฝนร่างกายได้"




"เสริมพลังสมาธิ หมายถึงการฝึกฝนพลังสมาธิ มันสามารถช่วยได้มาก หากว่าได้กินใบมังกรฟ้าลงไป ฝึกฝนเป็นมหาเซียนพลังสมาธิ สำหรับเจ้าแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยาก"




"ฝึกฝนกาย ก็ไม่ใช่แค่การฝึกกายธรรมดา แต่ว่าเป็นกายเนื้อเป็นร่างเซียน ร่างเนื้อเป็นมหาเซียน ตอนแรก บรรพบุรุษคนหนึ่งของเผ่านกยูง ก็ฝึกฝนร่างเนื้อเป็นขั้นมหาเซียน ฟันแทงไม่เข้า น้ำไฟไม่กล้ำกราย เหนือกว่าพลังห้าธาตุไป ไปสู้กับเทพสามกระบวนท่าก็ยังไม่ตาย"




"แน่นอนว่า จากการฝึกฝนของเจ้าในตอนนี้ ไม่สามารถดูดกลืนสมุนไพรได้ หากฝืนก็เท่ากับหาที่ตาย"




ใบที่สามกับใบที่สี่ยิ่งร้ายกว่า ใบหงส์เพลิงเป็นตัวแทนการถือกำเนิดใหม่ ก็คือการชุบชีวิตคนตาย ใบซ่วนอู่ คือการมีอายุยืนยาว"




แววตาของจางลั่วเฉินจับจ้องไปบนใบหงส์เพลิง แววตาก็ปรากฏความตื่นเต้นขึ้นมา นิ้วทั้งสิบกำแน่นจนเกิดเสียงกร๊อบ




เป็นสมุนไพรชุบชีวิตในตำนานจริงๆ หรือ ?




เสี่ยวเฮยกล่าวต่อว่า "ใบที่ห้าใบกิเลน หมายถึงความโชคดี  พกมันไว้กับตัวแล้ว ผู้ฝึกฝนจะได้พบกับโชคดีอย่างมาก แน่นอนว่า จุดนี้ เปิ่นหวังยังคงสงสัยอยู่ ต่อให้เป็นเป็นสมุนไพรเทพ  แต่การจะไปเปลี่ยนโชคชะตาของก็ยังไม่ค่อยจะเป็นไปได้นัก"




จางลั่วเฉินถามต่อ "ถ้าอย่างนั้น สองใบที่อยู่ยอดสุด แฝงฤทธิ์ที่น่าอัศจรรย์อย่างไหนเอาไว้หรือ ? "




เสี่ยวเฮยกล่าว "ที่ข้าพูดไปเมื่อครู่ จริงๆ แล้วคือเนื้อหาที่บันทึกเอาไว้ในคัมภีร์โบราณ ไม่สามารถรับรองได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ นอกจากนี้ พลังยาของใบที่หกและใบที่เจ็ดของเสินหลิงวิเศษเจ็ดดารา ต่อให้เป็นบันทึกโบราณก็มีบันทึกไว้แค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น"




"จุดที่แน่ใจได้เลยก็คือ น้ำค้างบนใบที่หกและใบที่เจ็ด  ถูกเรียกว่าแสงสุริยันและแสงจันทรา เป็นของวิเศษที่มีค่ามาก หากว่าหยดน้ำค้างแสงสุริยัน น้ำค้างแสงจันทราลงไปบนสมุนไพรเซียนหนึ่งหยด ก็พอที่จะทำให้ระดับของสมุนไพรเซียนสูงขึ้นไปอีกขั้นได้"




เสินหลิงเจ็ดดาราใบที่ห้า ใบที่หก และใบที่เจ็ด ต่างก็มีฤทธิ์ที่น่าอัศจรรย์เกินไป เหนือไปกว่าที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้




กลับเป็นใบทั้งสี่อย่างแรก มีราคาและฤทธิ์ยาที่น่าตกใจมาก ทำให้คนตื่นเต้นจนคลั่ง




แววตาของจางลั่วเฉินจ้องไปยังรากของเสินหลิงเจ็ดดารา เห็นหินหยกสีเขียวขนาดประมาณหัวคนแขวนอยู่บนนั้น




รากของมัน พันรัดหินหยกเอาไว้แน่นตรงกลาง ทำให้มันโผล่ออกมาเพียงส่วนปลายเท่านั้น




"นั่นคืออะไรน่ะ ? "




เสี่ยวเฮยเองก็สังเกตเห็นถึงหินหยกเขียวนั่น




ดังนั้น อุ้งมือทั้งสองของมันจึงยื่นไปที่หยกเขียว




เถาวัลย์ของเสินหลิงเจ็ดดาราสั่นไหวอย่างรุนแรง รากหลายอันราวกับกลายเป็นแส้ พวกมันปะทุพลังออกมาแล้วโจมตีไปที่เสี่ยวเฮย




เสี่ยวเฮยโจมตีรากของเสินหลิงเจ็ดดาราจนถอยไป แล้วฝืนดึงเอาหินหยกออกมา




มันเอาหินหยกเขียว มาถือไว้ในมือ แล้วเล่นไปมาครู่หนึ่ง ก็ยังไม่เห็นอะไร สุดท้ายจึงให้คำประเมินว่า "น่าจะเป็นของที่ไม่เลวนักอย่างหนึ่ง"




จางลั่วเฉินรับหินหยกมา ก็รู้สึกได้ถึงพลังธาตุไม้ที่แข็งแกร่งสายหนึ่งส่งออกมาทันที จากนั้น ก็โคจรพลังสมาธิเตรียมจะตรวจสอบโครงสร้างภายในของหินหยกดู




แต่กลับพบว่า วัสดุของหินหยกนั้นหนาแน่นาก ต่อให้เป็นพลังสมาธิก็ยังแทรกเข้าไปไม่ได้




"ไอพลังของมัน กลับคล้ายคลึงกับต้นพฤกษาเทียมฟ้ามาก"




จางลั่วเฉินไม่ได้ศึกษาต่อ เขาเก็บหินหยกเขียวเอาไว้ก่อน แล้วจ้องไปที่ใบไม้ใบที่สามของมัน




ใบที่สามมีรูปร่างคล้ายหงส์เพลิงที่กำลังบินอยู่บนฟ้า มันมีเพลิงไฟลุกโชนขึ้นมาราวกับเมฆเพลิงสีแดงสด




จางลั่วเฉินสีหน้าเคร่งเครียดแล้วกล่าวว่า "เสี่ยวเฮย เจ้าไปเอาใบไม้ใบที่สามลงมา ข้าจะลองดูว่า หากกินมันลงไปแล้ว จะสามารถชุบชีวิตคนตายได้จริงๆไหม"




อย่างไรเซียนกระบี่เสวียนจีก็ตายไปแล้ว เอาใบนี้ให้เขากิน ก็ถือว่าเป็นการใช้หมอสัตว์รักษาคนล่ะนะ หากว่าเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นล่ะ ?




แน่นอนว่าเสี่ยวเฮยเข้าใจจุดประสงค์ของจางลั่วเฉิน มันรีบโคจรพลังขึ้นทันทีแล้วไปเด็ดใบที่คล้ายหงส์เพลิงนั่นลงมา




จากนั้น อุ้งมือทั้งสองของเสี่ยวเฮยก็มีเพลิงไฟสีดำลุกโชนขึ้น มันหลอมรวมใบหงส์เพลิงหนึ่งรอบแล้วทำให้กลายเป็นเม็ดยาสีแดงสดขนาดประมาณเม็ดอิงเถา*




"เอาไป"




เสี่ยวเฮยเอาเม็ดยาส่งให้จางลั่วเฉิน ลังเลไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กล่าวออกมาว่า "ยานี้มีค่ามหาศาลมาก แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถชุบชีวิตเซียนที่วิญญาณแตกสลายไปได้..."




ยังไม่ทันที่เสียวเฮยจะกล่าวจบ จางลั่วเฉินก็เอาเม็ดยาไปที่ร่างของเซียนกระบี่เสวียนจีก่อนแล้ว




จางลั่วเฉินรู้ความหมายของเสี่ยวเฮยดี เม็ดยาเทพชุบชีวิตนี้ ไม่แน่ว่าจะสามารถช่วยเซียนที่วิญญาณสลายได้ แต่ว่า กลับสามารถช่วยผู้ฝึกฝนที่พึ่งจะตายให้ฟื้นกลับมาได้ หากเอามันมาเสียเปล่ากับร่างของเซียนกระบี่เสวียนจี สู้เก็บไว้ให้ตัวเองดีกว่าไม่ได้




แต่ว่า จางลั่วเฉินกลับไม่ได้คิดมากอย่างนั้น เซียนกระบี่เสวียนจีมีบุญคุณกับเขามาก ต่อให้เป็นความหวังเพียงน้อยนิด ก็ต้องลองดู




จางลั่วเฉินเอาเม็ดยาสีแดงสดใส่เข้าไปในปากของเซียนกระบี่เสวียนจี แล้วก็รออย่างเนิ่นนาน




ผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป ในที่สุดร่างก็เกิดการเปลี่ยนแปลง




เปลวเพลิงหลายสาย พุ่งออกไปจากรูขุมขนของร่างเซียนกระบี่เสวียนจี แล้วกลายเป็นเมฆเพลิงหุ้มร่างของเขาเอาไว้ภายในทั้งหมด




คลื่นความร้อนระอุโถมเข้ามา บีบให้จางลั่วเฉินต้องถอยออกไป




เปลวเพลิงรุนแรงมาก บ้างก็หดลง บ้างก็โหมกระหน่ำ ราวกับร่างนั้นกำลังหายใจ




"เหมือนจะมีหวังนะ"




เสี่ยวเฮยเบิกตากว้าง และเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมา




และในตอนนี้เอง กิ่งไม้ของต้นพฤกษาฟ้าดินก็สั่นไหวอย่างรุนแรง พลังชีวิตหลายสายพุ่งออกมาจากกิ่งแล้วเข้าไปรวมกันที่ร่างของเซียนกระบี่เสวียนจีไม่ขาดสาย




"สวบ!"




หินหยกที่จางลั่วเฉินเก็บไว้ในอก ราวกับถูกพลังที่มองไม่เห็นดึงไว้ มันกลายเป็นแสงสายหนึ่งลอยพุ่งออกไปอย่างควบคุมไม่ได้




ต่อมา หินหยกเขียวก็ปรากฏด้านบนร่างของเซียนกระบี่เสวียนจี




ผ่านการหลอมรวมของเปลวเพลิง ผิวของหินหยกเขียว ก็มีรอยอักขระมากมายหลายรอยอย่างหนาแน่น คล้ายกันกับรอยวงรอบปีของต้นพฤกษาเทียมฟ้า




"ตูม!"




พลังชีวิตมหาศาลสายหนึ่งพุ่งออกไปจากหินหยกเขียว มันกลับยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าพลังชีวิตของต้นพฤกษาเทียมฟ้าเสียอีก




จางลั่วเฉินตกใจไปเล็กน้อย แล้วเอาใบยาสมุนไพรที่แห้งเหี่ยวใบหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ




สมุนไพรวิเศษดูดเอาพลังชีวิตเข้าไปกลับฟื้นฟูพลังชีวิตกลับมาแล้วกลายเป็นสีเขียวมรกตช้าๆ ความเร็วนั่นสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามันมีรากและใบใหม่งอกออกมา สุดท้าย ระหว่างใบก็มีดอกไม้สมุนไพรสีขาวงอกออกมาหนึ่งดอก




"แห้งเหี่ยวกลับชุ่มชื่น ชุบชีวิตใหม่"




จางลั่วเฉินตื่นเต้นมากอย่างหาได้ยาก มือทั้งสองของเขาสั่นระริก




ไม้แห้งเหี่ยวกลับมาชุ่มฉ่ำได้ แล้วคนล่ะ ?




"เป็นไปได้อย่างไรกัน ? ในแผ่นดินนี้ จะมีพลังชีวิตอะไรที่รุนแรงไปกว่าพลังชีวิตของต้นพฤกษาฟ้าดินได้หรือ...ไม่ถูก...ข้าเข้าใจแล้ว เปิ่นหวังเข้าใจแล้ว..."




เสี่ยวเฮยยังตื่นเต้นกว่าจางลั่วเฉินเสียอีก มันเบิกตากว้างมองไปยังหินหยกเขียวบนร่างของเซียนกระบี่เสวียนจีแล้วกล่าวว่า "นั่นคือ...นั่นคือผนึกของต้นพฤกษาเทียมฟ้า แฝงไปด้วยพลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดของต้นพฤกษาเทียมฟ้า เป็นตัวแทนต้นกำเนิดเทพ"




"เจ้าว่าไงนะ ? "




จางลั่วเฉินไม่เข้าใจจริงๆว่า เสี่ยวเฮยกำลังกล่าวอะไร แล้วทำไมมันถึงได้ตื่นเต้นมากถึงขนาดนี้ ?




เสี่ยวเฮยกล่าวว่า "ในสมัยอารยธรรมยุคกลาง เทพ ได้ตัดต้นพฤกษาเทียมฟ้าลง แล้วหลอมรวมมันกลายเป็นหินหยกเขียวตรงหน้านี้ พูดอีกอย่างคือ ต้นกำเนิดเซียนคือผนึกที่รวมเอาพลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดเอาไว้ หินหยกนี้ก็คือผนึกที่รวมเอาพลังต้นพฤกษาเทียมฟ้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดเอาไว้ มิน่าล่ะว่ารากของเสินฝูเจ็ดดาราถึงได้รัดอยู่บนหินหยกนี้ มันกำลังดูดกลืนพลังจากในหินหยกนี้"




จางลั่วเฉินเองก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว เขารู้สึกหายใจไม่ออก แล้วมองจ้องไปยังร่างของเซียนกระบี่เสวียนจีกับหินหยกเขียวอีกครั้ง ในใจก็มีความหวังรอคอยรุนแรงขึ้น




"อาจารย์ ท่านจะต้องตื่นขึ้นมา!"




ทันใดนั้น หินหยกเขียวก็จมลงไปในหน้าอกของเซียนกระบี่เสวียนจี แล้วรวมกับร่างเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน




อุ้มมือทั้งสี่ของเสี่ยวเฮย คว้าไปที่พื้นอย่างห้ามไม่อยู่แล้วกล่าวว่า "ผนึกพลังของต้นพฤกษาเทียมฟ้า กลับรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างของเซียนกระบี่เสวียนจีได้ เมื่อเป็นอย่างนี้ เกรงว่าเซียนกระบี่เสวียนจีคงได้ถือกำเนิดใหม่แน่แล้ว นอกจากนี้ เขาได้รับการถ่ายทอดจากต้นพฤกษาเทียมฟ้าไป หากว่ามีชีวิตกลับมา ไม่รู้เลยว่าจะสูงส่งถึงขั้นไหน ฮ่าฮ่า! เป็นของล้ำค่าที่จักรพรรดิหญิงทิ้งเอาไว้ นางจะต้องทิ้งไว้ให้ข้าแน่ แต่กลับไปให้เจ้าเซียนกระบี่เสวียนจีนั่นแทนเสียได้"




ในตอนนี้เอง มู่หลิงซีก็ใช้วิชากายเข้ามาอย่างร้อนรนแล้วกล่าวว่า "มารวานรส่งข่าวมาว่า ผู้ฝึกฝนของเผ่าคุมศพโบราณและเผ่าเลี้ยงวิญญาณโบราณมาถึงทะเลลาวาแล้ว พวกเขาจะต้องรู้ว่า ในหุบเขาวิญญาณมีของล้ำค่าไม่น้อยแน่นอน เกรงว่าต้องลงมือชิงของแน่"




"มาได้เวลาพอดี"




จางลั่วเฉินพลันถอนหายใจแล้วยกมุมปากขึ้นพร้อมกล่าวว่า "ศิษย์พี่หญิงตวนมู่ ท่านอยู่ดูร่างของอาจารย์ที่นี่ ให้มารวานรกับเทพมารหนูขุดดินโลหิตเทพต่อไป ข้าจะไปถ่วงเวลาพวกเขาเอง"




*อิงเถา : เชอร์รี่





แปลจากจีนขึ้นโดยเพจ



เข้าอ่านกลุ่ม VIP เพียงตอนล่ะ 2 บาทเท่านั้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตอนที่ 1 :แปดร้อยปีหลัง

ตอนที่ 2 :เปิดบันทึกสวรรค์ยุทธ์